ถ้าต้องการรู้รายละเอียด  คลิกที่นี่
น้ำกระชายปั่นชนะเลิศมีการค้นพบว่า ถ้าดื่มน้ำกระชายปั่นเป็นประจำ ฮอร์โมนเพศในตัวจะสมดุล ช่วยลดอาการหงุดหงิดงุ่นง่านก่อนมีประจำเดือนได้ดีมากๆ นอกn1-healthy-food-78จากนี้ น้ำกระชายหนึ่งแก้วยังทำให้สุขภาพคุณดีขึ้นผิดหูผิดตาอีกด้วย

กระชายช่วยให้ กระดูกแข็งแรง เพราะมีแคลเซียมเพียบ ทั้งยังทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองส่วนกลางมากขึ้น ดื่มบ่อยๆ ไม่ต้องกลัวโรคสมองเสื่อม อัลไซเมอร์หรือโรคเอ๋อ คิดอะไรไม่ออก ถ้าคนที่เป็นความดันต่ำ หน้ามืดบ่อยๆ จะกลายเป็นคนสุขภาพดีเพราะกระชายมีสรรพคุณปรับระดับความดันให้สมดุล ความดันที่ต่ำอยู่จะสูงขึ้น ส่วนคนที่ความดันสูง ก็จะต่ำลง อะเมซิ่งมั้ยล่ะแถมกระชายยังช่วยให้ไตทำงานดีขึ้นป้องกันต่อมไทรอยด์เป็นพิษ บำรุงมดลูก ทำให้ผมดำ ไม่หงอก ไม่ร่วง แก้อาการกระเพาะปัสสาวะเกร็ง สำหรับผู้ชาย น้ำกระชายจะช่วยไม่ให้เป็นโรคต่อมลูกหมากโต ป้องกันไส้เลื่อนขอขอบคุณ ที่มา : นิตยสาร Spicy
กระชายตอนที่ 2
กระชายนอกจากสรรพคุณและประโยชน์ที่มีมากมาย. ยังคุณภาพที่ดีกว่า..โสม..เสียอีก. เพราะกระชายจะช่วยในการขับล้างสารพิษในเลือดในร่างกาย. ขณะที่โสมไม่ช่วยในการขับล้างพิษ.

ดังนั้นผู้ที่กินโสมติดต่อกันเป็นเวลานาน. จะมีร่างกายแข็งตึง. เดินไม่เบาตัว. จะหนักเนื้อตัว. เดินแข็งทื้อ ๆ

สรรพคุณของ..กระชาย..

1..กระชาย สรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย เป็นยาอายุวัฒนะ

2..ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย

3..กระชายเหลือง สรรพคุณช่วยแก้ลมวิงเวียน แน่นหน้าอก

4..ช่วยบำรุงกำลัง เสริมสมรรถภาพทางเพศ บำบัดโรคนกเขาไม่ขัน หรือโรคอีดี (Erectile Dysfunctional หรือ ED) (เหง้าใต้ดิน)

5..ช่วยบำรุงหัวใจ

**ด้วยการใช้เหง้าและรากของกระชายนำมาปอกเปลือก ล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำมาหั่นตากแห้ง. แล้วบดจนเป็นผง และให้ใช้ผงแห้งที่เตรียมไว้ประมาณ 1 ช้อนชา นำมาชงกับน้ำร้อนครึ่งถ้วยชา แล้วรับประทานเพียงครั้งเดียว**

6..ช่วยบำรุงกระดูก ช่วยทำให้กระดูกไม่เปราะบาง

7..ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกาย

8..ช่วยบำรุงกำหนัด แก้อาการกามตายด้าน (เหง้าใต้ดิน)

9..ช่วยบำรุงสมอง เพราะช่วยทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองส่วนกลางได้ดีมากขึ้น

10..ช่วยปรับสมดุลของความดันโลหิตในร่างกาย ช่วยลดความดันโลหิตเมื่อความดันโลหิตสูง แต่เมื่อความดันโลหิตต่ำก็จะช่วยทำให้ความดันเพิ่มขึ้นจนเป็นปกติ

11..สรรพคุณกระชายช่วยแก้โลหิตเป็นพิษ

12..กระชาย สรรพคุณทางยาช่วยแก้โรคในปากและคอ เช่น ปากเปื่อย ปากแห้ง ปากเป็นแผล. ฝ้าขาวในปาก

**ด้วยการใช้กระชายที่ล้างสะอาด. นำมาบดแบบไม่ต้องปอกเปลือก แล้วใส่ในโถปั่น. ปั่นพอหยาบ แล้วนำมาใส่ขวดปิดฝาแช่ไว้ในตู้เย็น แล้วนำมากินก่อนอาหารครั้งละ 1 ช้อนชาเล็ก กินวันละ 3 มื้อก่อนอาหารประมาณ 15 นาที. สักประมาณ 1 อาทิตย์**

13..เหง้าใต้ดิน มีรสเผ็ดร้อนและขม มีสรรพคุณช่วยแก้อาการปวดท้อง มวนในท้อง อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ

**ด้วยการใช้เหง้าและรากประมา ณครึ่งกำมือ ถ้าสดให้ใช้ประมาณ 5-10 กรัม แต่ถ้าเป็นแห้ง. ให้ใช้ประมาณ 3-5 กรัม แล้วนำมาต้ม. เอาน้ำดื่มแก้อการ หรือจะนำมาใช้ปรุงเป็นอาหารไว้รับประทานก็ได้เช่นกัน**

14..ช่วยแก้อาการท้องร่วง ท้องเดิน

**ด้วยการใช้เหง้าสด 1-2 เหง้า ใช้เหง้าที่ปิ้งไฟแล้ว. นำมาฝนหรือตำผสมกับน้ำปูนใส หรือจะคั้นให้ข้นๆ แล้วนำมารับประทานครั้งละ 1-2 ช้อนชาก็ได้**

15..ช่วยแก้บิด. มูกเลือด.

**ด้วยการ. ใช้เหง้าสดประมาณ 2 เหง้า นำมาบดจนละเอียด. แล้วเติมน้ำปูนใส คั้นเอาแต่น้ำมาดื่ม**

16..ช่วยรักษาอาการท้องเดินในเด็ก

17..รากกระชาย สรรพคุณช่วยแก้โรคกระเพาะ

18..ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ แก้อาการปัสสาวะพิการ

19..ช่วยบำรุงตับและไตให้แข็งแรง

20..ช่วยรักษาโรคไต ช่วยทำให้ไตทำงานได้ดียิ่งขึ้น

21..ช่วยป้องกันไทรอยด์เป็นพิษ

22..ช่วยรักษาอาการกระเพาะปัสสาวะเกร็ง

**ซึ่งในกรณีนี้อาจจะต้องใช้เม็ดบัว ที่ต้มแล้วนำมารับประทานร่วมด้วย**

23..ช่วยแก้อาการไส้เลื่อนในเพศชาย

24..ช่วยควบคุมไม่ให้ต่อมลูกหมากโต

25..ช่วยบำรุงมดลูกของสตรี ป้องกันไม่ให้มดลูกโต

26..แก้อาการตกขาว ช่วยขับระดูขาวของสตรี

27..ช่วยขับน้ำคาวปลาของสตรีหลังคลอดบุตร

28..ใช้เป็นยารักษาริดสีดวงทวาร

**ด้วยการใช้เหง้าสดประมาณ 60 กรัม (6-8 เหง้า) นำมาผสมกับเนื้อมะขามเปียกประมาณ 60 กรัม เกลือแกง 3 ช้อนแกง และนำมาตำแล้วต้มกับน้ำ 6 แก้ว แล้วเคี่ยวจนเหลือ 2 แก้ว นำมารับประทานครั้งละครึ่งแก้วก่อนนอน แล้วรับประทานติดต่อกันประมาณ 1 เดือนจนกว่าจะหาย**

29..ใบช่วยถอนพิษต่างๆ

30..ช่วยแก้อาการปวดเมื่อย

**ด้วยการใช้เหง้าหรือรากแก่ๆ นำมาหั่นเป็นแว่นบางๆ แล้วนำไปตากแห้ง. และนำมาชงกับน้ำดื่ม**

31..ช่วยบำรุงเส้นเอ็นให้แข็งแรง

32..เหง้าและรากยังใช้เป็นยาภายนอก สรรพคุณช่วยรักษาขี้กลาก ขี้เกลื้อน

32..ช่วยรักษาโรคน้ำกัดเท้า

**ด้วยการใช้รากกระชายทั้งเปลือกมาล้าง. แล้วผึ่งให้แห้ง ฝานเป็นแว่นๆ และนำไปบดให้เป็นผงหยาบๆ และใช้น้ำมันมะกอก. หรือน้ำมันมะพร้าวมาอุ่นในหม้อ ใบเล็กๆ เติมผงกระชายใช้น้ำมัน 3 เท่าของปริมาณกระชาย แล้วนำมาหุงด้วยไฟอ่อนๆ ราว 15-20 นาที แล้วกรองกระชายออก เก็บน้ำมันไว้ในขวดแก้วสีชา. นำมาใช้ทาบริเวณที่เป็น**

33..ช่วยแก้อาการคันหนังศีรษะจากเชื้อรา

**ด้วยการใช้น้ำมันดังกล่าว (จากสูตรรักษาโรคน้ำกัดเท้า) นำมาเข้าสูตรทำเป็นแชมพูสระผม หรือจะใช้น้ำมันกระชายโกรกผม. แล้วนวดให้เข้าหนังศีรษะก็ได้ แล้วค่อยล้างออก (น้ำมันกระชาย)**

34..ช่วยรักษาฝี

**ด้วยการใช้เหง้ากับรากมาตำให้ละเอียด แล้วนำมาทาหัวฝีที่บวมจะทำให้หายเร็วยิ่งขึ้น**

35..เหง้ามีฤทธิ์ในการช่วยต้านเชื้อรา ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคผิวหนังและโรคในช่องปากดีพอสมควร

36..กระชายมีสารที่ออกฤทธิ์ช่วยต้านการก่อกลายพันธุ์

**โดยการบริโภครากกระชาย. สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้
กระชายมีสารที่ออกฤทธิ์ทำให้อนุมูลอิสระเป็นกลาง จึงมีผลช่วยลดความเสียหายของการเกิดอนุมูลอิสระภายในร่างกายได้**

37..กระชายมีฤทธิ์ช่วยต้านการอักเสบ การบริโภคกระชายเป็นประจำอาจได้ผลคล้ายกับการกินยาแอสไพริน. และอาจช่วยป้องกันการเกิดโรคที่มีสาเหตุมาจากการอักเสบเรื้อรังภายในร่างกายได้

38..งานวิจับจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ร่วม. กับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ศึกษาพบว่าสารสกัดจากกระชาย. สามารถช่วยต้านการเสื่อมของกระดูกอ่อนในหลอดทดลองได้ และได้ผลเป็นที่น่าพอใจ

39..งานวิจัยในประเทศกานาพบว่าสาร Pinostrobin จากรากและใบมีฤทธิ์ช่วยต้านเชื้อ Plasmodium falciparum ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมาลาเรีย

40..งานวิจัยของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์พบว่า. สารสกัดคลอโรฟอร์มและเมทานอลจากรากของกระชาย. มีฤทธิ์ในการต้านการเจริญเติบโตของเชื้อ Giardia intestinalis ซึ่งเป็นพยาธิเซลล์เดียวในลำไส้ ที่ก่อให้เกิดภาวะท้องเสีย ซึ่งเป็นปัญหาที่สำคัญอย่างมากสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง

41..งานวิจัยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพบว่าสาร Pinostrobin, Pinocembrin, Panduratin A และ Alpinetin ของกระชายนั้น. มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียได้หลายชนิด

#ประโยชน์ของกระชาย**

1..สามารถนำมาทำเป็นน้ำกระชายปั่น ดื่ม. เพื่อเพิ่มความสดชื่น บำรุงร่างกาย ทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าได้เป็นอย่างดี

2..น้ำกระชาย ช่วยทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่ายิ่งขึ้น ช่วยทำให้เหนื่อยลดลง

3..ช่วยทำให้เส้นผมแข็งแรง เปลี่ยนผมขาวให้กลับเป็นดำ ช่วยทำให้ผมบางกลับมาหนาขึ้น และช่วยแก้ปัญหาผมหงอด ผมร่วงได้

4..รากนำมาใช้เป็นเครื่องแกงในการประกอบอาหาร ช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อและปลาได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปลาดุก ปลาไหล ปลากุลา เป็นต้น และยังทำให้อาหารมีกลิ่นและรสที่หอมแบบเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย

5..รากกระชายสามารถช่วยไล่แมลงได้

**ด้วยการนำตะไคร้ ข่า หอมแดง ใบสะเดาแก่ นำมาตำผสมกันแล้วใช้ผสมกับน้ำฉีดในบริเวณที่มีแมลงรบกวน**

#วิธีทำน้ำกระชาย**

ให้เตรียมวัตถุดิบดังนี้
**สูตรแรก. ใช้กระชายเหลืองสด. ล้วน. ไม่มีส่วนอื่นมาผสมเลย. จำนวนครึ่งกิโล**

**สูตรที่สอง. เป็นการเพิ่มส่วนผสมก็ได้ โดยใช้กระชายเหลือง 5 ส่วน กระชายดำ 1 ส่วน และกระชายแดง 1 ส่วน) / น้ำผึ้ง / น้ำมะนาว / น้ำเปล่าต้มสุกที่ทิ้งไว้จนเย็น**

ทั้ง 2 วิธี. มีขั้นตอนการทำเหมือนกัน. เพียงแต่สูตรแรกใช้แต่กระชายล้วน. ส่วนสูตรที่สองมีส่วนผสมเพิ่มขึ้นเท่านั้น.

**เริ่มด้วยการ**. นำกระชายมาล้างให้สะอาด ตัดรากที่รกรุงรังออก ตัดหัวและตัดท้ายทิ้งไป ถ้าขูดเปลือกออกบ้างก็จะดีมาก

เมื่อเสร็จแล้วนำมาหั่นเป็นท่อนๆ เพื่อให้ง่ายต่อการนำมาปั่น

ให้เตรียมผ้าขาวบาง รองด้วยกระชอน เตรียมไว้ให้พร้อม

นำกระชายที่เตรียมไว้ใส่ในโถปั่นและผสมกับน้ำเปล่าต้มสุกพอประมาณ แล้วปั่นจนละเอียด

เสร็จแล้วให้เทใส่กระชายที่เตรียมไว้ ถ้าน้ำน้อยก็ให้ผสมน้ำเปล่าลงไปอีก แล้วคั้นเอาแต่น้ำเท่านั้น

ที่นี้เราก็จะได้น้ำชายเหลืองสดๆ ซึ่งสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานเป็นเดือน

**วิธีการดื่มน้ำกระชาย**
นำหัวเชื้อของน้ำกระชายที่เก็บไว้ในตู้เย็น. เทใส่แก้ว. ครึ่งแก้ว. ต่อน้ำ. ครึ่งแก้ว. แล้วอาจผสมด้วยน้ำผึ้ง. หรือน้ำหวานที่ชอบพอประมาณตามรสชาติที่ชอบ.

**ต้องทราบว่า. อย่าดื่มน้ำกระชายเพียว ๆ โดยไม่ผสมน้ำเด็ดขาด**

**แต่ถ้ากลัวว่ากลิ่นกระชายจะแรงไป ก็สามารถใช้ใบบัวบัก หรือใบโหระพา มาปั่นรวมกันก็ได้ตามใจชอบ เพราะไม่มีส่วนผสมที่เป็นสูตรตายตัวเท่าไหร่**

**และน้ำกระชายไม่ควรเก็บไว้นานมาก เพราะจะทำให้ความซ่าและความหอมของกระชายลดน้อยลง ทำให้เกิดตะกอนที่ก้น ถ้าจะให้ดีที่สุดก็ควรดื่มให้หมดภายใน 1 อาทิตย์ จะได้รสชาติที่ซ่า ดื่มแล้วชื่นใจพร้อมสรรพคุณอีกเต็มๆ อีกด้วย

**แต่สำหรับผู้ที่ดื่มน้ำกระชายแล้วมีอาการรู้สึกแปลกๆ ร้อนวูบวาบ หรือมีอาการเหงื่อออก. หรือเรอออกมาก็ไม่ต้องตกใจ เพราะเป็นอาการปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ หากดื่มไปสักพักเดี๋ยวก็ชินไปเอง**

#ขอบคุณข้อมูลจาก.. เว็บไซต์สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมา จากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย สำนักงานหอพรรณไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช (เต็ม สมิตินันทน์), เว็บไซต์เทคโนโลยีชาวบ้าน, เว็บไซต์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, เว็บไซต์วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จังหวัดพะเยา, เว็บไซต์หมอชาวบ้าน (รศ.ดร.สุธาทิพ ภมรประวัติ), สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)..
(เพจ..กระจกสุขภาพ แก้วกะเดียว..)
By (..แก้วรัตน. สัจธรรม)  & Thongyod Thongchompoo