ขั้นตอนการฝึก
๑.แต่งกายให้สบายฯเสื้อผ้าไม่แน่นจนเกินไปจนทำให้ผู้ฝึกมีความอึดอัด
๒.สังเกตุการหายใจเข้าออกว่ามีลมกระทบนะจุดใดของจมูกและในโพรงจมูกบ้าง
๓.การกระทบของลมนั้นมีความร้อนหรือเย็นอย่างไรหรือมีความรู้สึกที่อุ่นในโพรงเพดานปาก
๔.หายใจเข้าให้ลึกแต่บางเบา และหายใจออกให้ลึกแบบบางเบา จนรู้สึกว่าเราไม่เกร็งกับการหายใจเบาสบาย
๕.จากข้อ ๒-๓-๔ สังเกตุว่ามีน้ำลายในโพรงปากไหลออกมาจากด้วยอาการกระทบของลมหายใจไหมแล้วมีรสชาติอย่างไรอุณหภูมิอย่างไร
๖.ให้เริ่มจับความรู้สึกในเวลากลืนน้ำลายลงในลำคอช้าฯแล้วหายใจเข้าหรือออกยาวฯ จนเรารู้สึกว่าตอนกลืนน้ำลายลงในลำคอนั้นเรามีอาการขนลุกหรือเย็นที่บริเวณศรีษะ ท้ายทอย คอหอย หรือถึงหน้าอก
๗.อาการใดฯที่กว่ามาแล้วตามข้างต้นให้คอยดูตอนกลืนน้ำลายลงในลำคอจับความรู้สึกภายในแล้วน้อมจิตเข้ามาดูอารมณ์นั้นจนขยายลงไปทั่วพร้อมทั้งกาย
๘.จับความรู้สึกนั้นแล้วลองมาทำลูกบอลอากาศ โดยหันอุ้งมือเข้าหากันขยับเข้าออกเช้าฯจนเหมือนมีไฟฟ้าเข้ามาสถิตย์ มีช็อตเล็กฯหรือมีเหมือนแม่เหล็กมาดูดที่ฝ่ามือ
๙.ให้ผู้ที่ได้ผัสสะสภาวะไฟฟ้าสถิตย์นั้นหายใจเข้าพร้อมกับยืดฝ่ามือออกด้านข้างช้า จะมมีความรู้สึกเหมือนถูกดูดที่กลางฝ่ามือ หายใจออกพร้อมกับดันฝ่ามือเข้าหากันช้าฯจะผัสสะสภาวะเหมือนมีพลังที่กลางฝ่ามือดันต้านกัน ให้จับอารมณ์สภาวะนั้นไว้
๑๐.ขยายอารมณ์ผัสสะสภาวะตอนหายใจเข้าให้ขยายออกขึ้นมาตามลำแขน จนถึงออกแล้วลงไปเบื้องล่างจนทั่วทั้งตัว ในขณะเดียวกันการหายใจออกก็เช่นกัน ทำเหมือนกับกระบวนการหายใจเข้าจนมีอาการเหมือนไฟฟ้าสถิตย์ทั้งตัว
๑๑.ให้ผู้ที่ผัสสะสภาวะไฟฟ้าสถิตย์หายใจเข้ายาวฯหายใจออกยาวฯ จับอารมณ์นั้นขยายไปทั่วตัว จุดแรกที่จมูก หว่างคิ้ว หน้าผาก บนศรีษะ โพรงเพดานปาก จนเกิดน้ำลายที่ใสเย็นและหวานไหลซาบลงในลำคอเย็นถึงคอหอยแล้วเริ่มอบอุ่นที่หน้าอก อุ้นจนเรารูกสึกสบายผ่อนคลายมีความสุขถ้าเราดูตามลึกลงไจะอุ่นถึงสะดือด้านบนแล้วเย็นลงหัวเหน่า แต่จะร้อนออกตรงฝีเย็บ เย็นลงขาทั้งสองแต่จะร้อนออกฝ่าเท้าทั้งสอง
๑๒.ให้จับความรู้สึกว่าเย็นนั้นคือธาตุน้ำ ความรู้สึกว่าอุ่นหรือร้อนนั้นคือธาตุไฟ ความรู้สีกวูบวาบซ่าไปมานั้นคือธาตุลม ความรู้สึกว่าตัวเราแน่นและกำลังเล็กลงหนักขึ้นเรื่อยฯนั้นคือธาตุดิน อารมณ์ใดเกิดขึ้นก่อนก็ตามให้เรานึกถึงอารมณ์เมตตา ต่อไปก็กรุณา มุทิตา อุเบกขา คือจิตแห่งพรหมนั้นเอง
๑๓.ให้ผู้เรียนฝึกจับอารมณ์ให้ชิน เพราะเราจะต้องใช้สภาวะอารมณ์ที่เกิดนั้นมาเป็นกุณแจในการเปิดจุดธาตุและปิดธาตุบนร่างกายที่มีปัณหาจนเกิดเป็นโรคภายในคนไข้นั้นเอง
การนวดจตุรธาตุจิตพรหมนี้ เป็นลูกกุณแจที่สำคัณสำหรับไขความลับภาพการนวดแผนคว่ำ แผนหงายของวัดโพธิ์นั้นเอง ศาสตร์การนวดแผนโบราณ จึงต้องมาตรวจดูที่กาย คือ รูป มหาภูตรูป ดิน น้ำ ลม ไฟ และ ฐานที่ตั้งแห่งกองธาตุ ตรวจดูเวทนา ก็คือตรวจอาการอารมณ์ที่มีแสดงออกในรูปนั้นฯ ตรวจดูจิต ในกายรูปนั้นจะมีที่ตั้งฐานแห่งจิตเป็นตัวควบคุมสรีระกล ส่งผลให้ระบบการไหลเวียนเลือดแลลม น้ำแลไฟ ทำงานได้เป็นปกติวิสัย จึงก่อเกิดธรรมชาติของธาตุแต่ละรูปลักษณ์แสดงออกมาเป็นอัตลักษณ์ เอกลักษณ์ของรูปและนาม
พท.ศิริมงคล ตอบงาม พท.ภ,พท.ว,พท.ผ,พท.น
หมอพื้นบ้านจังหวัดนนทบุรี
อาศรมศรีมงคลคลินิการแพทย์แผนไทย